น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าควรเติมตอนไหน และมีวิธีการเติมอย่างไร

2,516 view

20 ก.ค. 2566

จะรู้ได้อย่างไรว่าควรเติมน้ำยาตอนไหน

ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะรู้ว่าควรเติมน้ำยาได้ตอนไหนก็ต่อเมื่อสูบแล้วไม่ได้รสชาติ หรือได้กลิ่นหอมแบบเดิม หรือหากยังได้รสชาติเหมือนเดิม แต่ควันที่ออกมาน้อยกว่าเดิม ส่วนใหญ่ถ้าเป็นระบบแทงค์ที่มองเห็นตัวน้ำยาภายใน ผู้ใช้สามารถตรวจสอบระดับน้ำยา ดังนั้น การเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของตัวผู้ใช้ และควรเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าตอนที่ควันและรสชาตินั้นลดลง

template2_2_10

สิ่งที่ควรทำก่อนเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า

ก่อนที่ผู้ใช้จะเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำเป็นต้องปิดอุปกรณ์และคลายเกลียวแทงค์ออกจากตัวบุหรี่ไฟฟ้าก่อน แต่ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของตัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้ด้วย และการทำแบบนี้ก็เพื่อป้องกันการหก หรือการรั่วของน้ำยาที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายในวงจรภายใน หรือตัวแบตเตอรี่ของบุหรี่ไฟฟ้า และอีกสิ่งที่อยากแนะนำคือ ควรเตรียมการก่อนที่จะเติมน้ำยา อย่างการเตรียมผ้าหรือกระดาษทิชชู่ (ในกรณีที่ตัวน้ำยาหก)

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีระบบการเติมอย่างไรบ้าง

1. พอตระบบปิด : พอตแบบระบบปิด ถือเป็นพอตที่ใช้งานง่าย และได้รับความนิยมมากที่สุด

2. พอตระบบเปิด : การเติมน้ำยาในพอตระบบเปิดนั้นจะมีความต่างจากพอตระบบปิดเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นระบบตัวแทงค์ที่สามารถเปิดได้ และผู้ใช้สามารถเติมน้ำยาและเปลี่ยนรสชาติได้ตามที่ต้องการ โดยถอดตัวแทงค์ที่เก็บน้ำยาออก จากนั้นให้ใส่น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าลงไปและรอให้น้ำยาซึมซับในคอยล์อย่างน้อย 2 - 3 นาที แต่แนะนำให้รอสัก 10 - 20 นาที เพื่อป้องกันอาการคอยล์ไหม้ขณะสูบ จากนั้นให้นำตัวแทงค์ใส่กลับเข้าไป เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

3. แบบเติมด้านบน : การเติมน้ำยาแบบด้านบน ผู้ใช้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์นั้นปิดอยู่ เนื่องจากแทงค์เติมด้านบนส่วนใหญ่จะมีช่องไหลเวียนของอากาศด้านล่าง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้นั้นคลายเกลียวแทงค์ได้ และหากเสร็จแล้วให้คลายเกลียวคอยล์เพื่อป้องกันการไหม้ หากเป็นคอยล์ตัวใหม่ ให้หยดน้ำยาใส่ไปที่ตัวคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าด้วย เพื่อป้องกันอาการคอยล์ไหม้ โดยการนำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ต้องการมาหยดใส่สำลีที่ตัวคอยล์ 2 - 3 หยด และนำคอยล์กับตัวแทงค์มาประกอบกัน จากนั้นให้เติมน้ำยาในตัวแทงค์ตามปริมาณที่กำหนด แล้วปิดจุกยางที่ตัวแทงค์ให้สนิทเพื่อป้องกันการรั่ว และให้รอ 10 - 20 นาที เพื่อให้ตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นซึมเข้าสู่คอยล์ได้อย่างเต็มที่

4. แบบเติมด้านล่าง : การเติมน้ำยาแบบด้านล่างจะมีขั้นตอนที่คล้าย ๆ กับการเติมน้ำยาแบบด้านบน

5. แบบ RDA : ระบบ RDA หรือก็คือระบบหยดสูบ ถือเป็นระบบแรก ๆ ของบุหรี่ไฟฟ้าเลยก็ว่าได้ โดยระบบนี้จะไม่มีตัวแทงค์ในการเก็บตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ผู้ใช้จะต้องหยดน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าลงที่ตัวสำลีและขดลวดโดยตรง และควรหยดให้พอดี ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวขดลวดที่ผู้ใช้นั้นใช้งานด้วย

ส่วนผสมของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง

Vegetable Glycerin (VG)

สารตัวนี้เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติที่มาจากน้ำมันพืช หรือจากน้ำมันที่มาจากไขมันของสัตว์ แต่สำหรับการใช้กับบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นไขมันที่มาจากพืชเท่านั้น โดยสามารถทำให้ส่วนผสมของน้ำยาเกิดความเข้ากันได้ดี และสามารถกักเก็บความชื้นและสลายตัวได้ นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ทำให้เกิดควัน หรือ Aerosol และหากมีส่วนผสมของ VG เยอะ จะทำให้มีควันที่เยอะมากกว่าปกติ รวมถึงทำให้เกิดรสชาติที่หวาน สารตัวนี้ถือเป็นสารที่ปลอดภัยอีกด้วย

Propylene Glycol (PG)

สารตัวนี้เป็นสารตัวเดียวที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ความงาม และใช้ในการแต่งสี รวมถึงกลิ่นในอาหารต่าง ๆ

Nicotine

นิโคตินเป็นสารประกอบที่สกัดมาจากใบยาสูบ สามารถพบได้ในบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้า สารนิโคตินจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางระบบหายใจ โดยเข้าสู่กระแสเลือดและไปยังสมอง ส่งผลให้ผู้ใช้มีความรู้สึกชื่นชอบและผ่อนคลาย นอกจากนี้ ยังสามารถกระตุ้นการทำงานของระบบเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้ออีกด้วย

Flavouring

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะมีขั้นตอนในการเดียวกับการใส่กลิ่น หรือรสชาติของอาหาร ดังนี้

- กลิ่นที่จะต้องใส่ลงไปในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นสารผสมที่มีความเข้มข้นสูง สามารถฟอกได้นานและเข้ากันได้กับสารตัวอื่น ๆ ในตัวน้ำยา โดยวัตถุดิบที่ใช้สำหรับทำกลิ่นนั้นมักเป็นสารเคมีที่ถูกผสมให้เข้ากันเพื่อให้ได้กลิ่นที่ต้องการ

- ให้นำวัตถุดิบกลิ่นที่เตรียมไว้มาผสมกับตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า โดยคำนึงถึงอัตราส่วนในการผสม และปริมาณที่เพิ่มเข้าไป เพื่อให้ได้กลิ่นที่ต้องการ และไม่ควรทำให้น้ำยานั้นมีความเข้มข้นจนเกินไป หรือมีกลิ่นที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

- หลังจากที่ทำการผสมกลิ่นให้เข้ากับตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว ต้องทำการเพื่อให้กลิ่นและสารอื่น ๆ ที่อยู่ในน้ำยาให้กระจายได้อย่างทั่วถึง จากนั้นจึงจะทำการบรรจุน้ำยาลงไปในขวด หรือบุหรี่ไฟฟ้าในปริมาณที่เหมาะสม

คอยล์ไหม้ ดูยังไง

1. สูบแล้วมีเสียงที่ดังผิดปกติ : โดยปกติ การสูบเจ้าตัว Pod System นั้น ตัวคอยล์ที่มีความร้อนจะทำปฏิกิริยากับตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เช่น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า Salt Nic ทำให้เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าเกิดเสียงดัง หรืออาจไม่มีเสียงเลยก็ได้ แต่หากเกิดเสียงดังขึ้นจนผิดปกติ แสดงว่าคอยล์ที่ใช้อยู่นั้นหมดอายุแล้ว แนะนำให้เปลี่ยนคอยล์ใหม่ทันที แต่หากเปลี่ยนแล้วยังมีเสียงดังอยู่ อาจเป็นไปได้ว่าตัวเครื่อง Pod System ที่ใช้อยู่นั้นมีปัญหาแล้ว

2. ได้รับรสชาติของตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่อ่อนลง : คอยล์ที่เสื่อมสภาพนั้นจะทำให้รสชาติของตัวน้ำยาลดลง สามารถสังเกตุได้จากความคุ้นเคยของรสชาติของตัวน้ำยาที่ใช้อยู่เป็นประจำ เพราะปกติแล้ว การใช้งานตัวน้ำยาควรมีรสชาติที่ใกล้เคียงกับครั้งแรกที่เปลี่ยนคอยล์ใหม่

3. สัมผัสได้ถึงกลิ่นไหม้ของคอยล์ : การสูบ Pod System ที่คอยล์หมดอายุแล้วจะทำให้ผู้สูบรู้สึกแสบคอ และได้กลิ่นไหม้ รวมถึงรสชาติของน้ำยาที่แย่ลง จนอาจทำให้ไม่อยากสูบอีกเลยก็เป็นได้

4. มีควันหรือไอน้ำที่น้อยลงไปมาก : โดยปกติแล้ว ไอน้ำที่เกิดจากปฏิกิริยาของคอยล์นั้นจะค่อย ๆ น้อยลงตามระยะเวลาการใช้งาน แต่หากคอยล์เสื่อมสภาพจนหมดอายุแล้ว จะสามารถสังเกตุได้จากปริมาณไอระเหยจากตัวน้ำยาที่มากกว่าปกติ

คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าต้มกี่นาที

คอยล์บุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้รับกลิ่นและรสชาติจากตัวน้ำยาได้อย่างเที่ยงตรงที่สุด และยังช่วยให้การสูบในรูปแบบต่าง ๆ นั้นสะดวกขึ้น โดยจะทำหน้าที่สร้างไอน้ำจากความร้อนของขดลวด ทำการวนซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะหมดอายุการใช้งาน แต่การสูบลากเป็นเวลานาน หรือสูบบ่อยครั้งอาจทำให้คอยล์เสื่อมสภาพ หรือลวดขาดเสียหายได้เร็วขึ้น และหากใช้คอยล์นานเกินไป กลิ่นที่ได้จะเริ่มลดลง ทำให้ตัวน้ำยาดีด ส่วนการต้มคอยล์นั้น ต้มเพียงแค่ 10 นาที ก็พอ

คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าสำเร็จ ต้มแล้วนำกลับมาสูบได้ไหม

หากถามว่า ถ้านำคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าแบบสำเร็จไปต้มแล้วจะสามารถนำเอากลับมาสูบได้หรือไม่ ขอตอบเลยว่าสามารถสูบได้ แต่รสชาติที่ได้จะไม่หวานฉ่ำเหมือนคอยล์ปกติ อย่างคอยล์ปกตินั้นจะมีความหวานฉ่ำแบบ 100% แต่คอยล์ที่ถูกนำไปต้มแล้วนั้นความหวานจะถูกลดลงไปค่อนข้างเยอะ แต่รสชาตินั้นยังคงอยู่ประมาณ 50% ในเรื่องของกลิ่นจะอยู่ที่ 30% - 40% ซึ่งจะไม่ค่อยชัด แต่ควันยังถือว่าได้อยู่ แต่หากนำกลับไปต้มใหม่แล้วนำกลับมาสูบอีกจะยิ่งทำให้ดรอปลงไปเรื่อย ๆ เรียกได้ว่ายิ่งต้มยิ่งหาย เพราะตัวสำลีคอยล์พอเจอกับความร้อนจากการต้มบ่อย ๆ ก็จะยิ่งทำให้เปื่อยลงไปเรื่อย ๆ นั่นเอง

template1_2_9

ข้อสรุป

การเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นขึ้นอยู่กับอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าที่ตัวผู้ใช้นั้นใช้งาน หากใครที่ต้องการจะเริ่มใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า แนะนำให้ศึกษาก่อนว่าบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่นั้นเป็นบุหรี่ไฟฟ้าประเภทไหน และวิธีการเติมน้ำยาอย่างไร เพื่อให้การใช้งานบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นไปด้วยความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

แอดมินจะมาแนะนำเว็บไซต์ที่สามารถซื้อพอตใช้แล้วทิ้ง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า พอตไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างสบายใจไม่มีการโกงแน่นอน Metavapethai เว็บไซต์ยอดนิยมที่ส่งของแท้ร้อยเปอร์เซนต์ สินค้าคุณภาพดีให้เลือกหลากหลาย ราคาดี รับประกันสินค้าแท้แน่นอน จัดส่งเร็ว มีแอดมินคอยช่วยตอบคำถาม ถ้าสายควันท่านใดสนใจสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ของเราได้เลย